การเดินทางของภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Toy Story นับตั้งแต่ปี 1995 ที่เรียกความประทับใจ และสร้างความทรงจำดีๆต่อผู้ชมทั่วโลกมาแล้วมากมาย โดยการพูดถึงเรื่องราวของของเล่นที่มีชีวิต และความรู้สึกนึกคิดต่อเจ้าของอันเป็นที่รัก อันนำมาซึ่งการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น 15 ปีผ่านไปกับการเติบโตของ Toy Story พัฒนาการที่ถูกต่อยอดและเนื้อเรื่องที่เติบโตขึ้น
ให้มาถึงภาคล่าสุดอย่าง Toy Story 3 จนถึงทุกวันนี้ โดยการบอกถึงเรื่องราวของเวลาที่วิ่งอยู่อย่างไม่มีวันหยุดนิ่ง แอนดี้ ผู้เป็นเจ้าของและเพื่อนข้างกายบรรรดาเหล่าชาวของเล่นของเขา จำใจต้องเติบโตไปกับช่วงเวลาเหล่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่เราทึ่งกับการเติบโตของ Toy Story และไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งเมื่อเราลองมองให้ลึกลงไปมันถือเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว กับภายใต้จิตใจของคนบางคนที่ได้แต่เพียงหยุดอยู่ที่เดิมไม่สามารถก้าวไปไหนได้ ในขณะที่อีกคนไม่สามารถหยุดและจำใจต้องก้าวเดินต่อไป มันจึงเป็นเรื่องที่น่าใจหาย
และสำหรับผู้ชมมันน่าติดตามมากขึ้นกว่าเก่า กับการคอยเฝ้ามองและเอาใจช่วยพวกเขา โดยหวังเพียงแต่ว่าขอให้มันเป็นการจากลาที่ดี และไม่มีใครต้องเสียน้ำตา ซึ่งตลอดระยะเวลาระหว่างการรับชมส่วนหนึ่งของการห่างเหินไปนานจากเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่อง ทั้งภาค 1 2 และ 3 จึงเป็นอะไรที่เสมือนกับการนั่งย้อนระลึกความหลังถึงวันเก่าๆในอดีต ทั้งความรู้สึกโหยหา และคิดถึง ล้วนกลับมาดั่งกระแทกกลางใจคนดู ให้เข้าถึงอารมณ์อย่างเข้าอกเข้าใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า Toy Story ยังคงธีมหลักของเรื่องไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งความสนุก ความเฮฮา และการผขจญภัย อันนำมาซึ่งความรักความผูกพันธ์ที่มีต่อมิตรสหาย และการปิดบทสรุปเรื่องราวของแอนดี้ กับเพื่อนพ้องชาวของเล่น ที่ทำได้อย่างสวยงามและตราตรึงใจคนดูจวบจนปัจจุบัน
สนับสนุนข้อมุลโดย ข่าวต่างประเทศ
No comments:
Post a Comment