อนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากเทพนิยายสุดคลาสสิกจากฝีมือ วอล์ท ดิสนีย์ Sleeping Beauty (เจ้าหญิงนิทรา) เมื่อเจ้าหญิงอโรร่าผู้เลอโฉมต้องคำสาปชั่วร้าย ทำให้เจ้าหญิงต้องหลับไหลชั่วนิรันดร์มีเพียงจุมพิตแห่งรักจากเจ้าชายผู้กล้าเท่านั้น ที่สามารถปลุกเจ้าหญิงที่ฟื้นได้
จากความเป็นแม่สู่จุมพิตแห่งรักแท้ เจ้าหญิงนิทรากับพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ตำนานเกี่ยวกับหญิงสาวผู้ตกอยู่ในภาวะหลับใหลเป็นเรื่องเล่าเก่าแก่ในยุโรปที่อาจสืบย้อนกลับไปถึงทศวรรษที่ 1300s กล่าวถึงคู่รักชายหญิงคือทรอยลัสกับเซลแลนดีน (Troylus and Zellandine) พล็อตเรื่องเดียวกันถูกตีพิมพ์ในฝรั่งเศสเมื่อราวปี 1528 ภายใต้หนังสือรวมเล่มนิทานชื่อ Perceforest นักวิชาการบางท่านมองว่า Troylus and Zellandine อาจเป็นเจ้าหญิงนิทราเวอร์ชั่นเก่าที่สุด ส่วน Perceforest ถือเป็นฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก
อย่างไรก็ดีโครงเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหญิงผู้ถูกสาปให้ต้องหลับใหล กลายเป็นที่รู้จักมากที่สุดในอีก 100 ปีต่อมาเมื่อเกียมบาติสตา บาซิเล (Giambattista Basile) กวีชาวอิตาเลียนได้นำเรื่องราวที่ว่านี้มาเรียบเรียงใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ‘Sun, Moon, and Talia’ ในเวอร์ชั่นนี้เจ้าหญิงนิทรามีชื่อว่าทาเลีย พระบิดาของพระองค์ได้รับคำทำนายจากนักปราชญ์ว่าลูกสาวเพียงคนเดียวจะพบภัยจากเสี้ยนของใยผ้า
จึงสั่งห้ามไม่ให้มีการนำผ้าชนิดต่างๆ เข้ามาสู่ราชอาณาจักร ทาเลียเมื่อเติบโตขึ้นบังเอิญเห็นหญิงชรากำลังปั่นผ้า เธอเกิดความสนใจและเข้าไปสัมผัสทำให้เสี้ยนจากผ้านั้นปักลงใต้เล็บ เจ้าหญิงล้มลงเข้าสู่การนิทราอันแสนยาวนาน พระราชาเสียใจมากจึงได้นำลูกสาวไปฝากไว้ในคฤหาสน์ชานเมืองของพระองค์ และไม่ทรงกลับไปที่นั่นอีก
No comments:
Post a Comment