Monday 10 October 2022

รีวิว Entergalactic (2022)

ภาพยนตร์แอนิเมชันแนวมิวสิคัลสำหรับผู้ใหญ่ Entergalactic (2022) โปรเจกต์นี้ถูกพัฒนาโดยนักร้องและนักแสดงชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักในชื่อ Kid Cudi เขาทำหน้าที่เป็นทั้งผู้อำนวยการสร้าง เขียนบท และพากย์เสียงเป็นตัวละครหลักอันที่จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ทำหน้าที่เป็น Visual albums สำหรับอัลบั้ม Entergalactic ของ Kid Cudi ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 8 ของเขาในฐานะแรปเปอร์ โดยหน้าที่ของ Visual albums นั้นเปรียบเสมือนองค์ประกอบเสริมของอัลบั้มที่จะออกมาในรูปแบบมิวสิควิดีโอหรือภาพยนตร์ก็ได้ ดังนั้น เพลงที่เราจะได้ยินในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพลงจากอัลบั้มดังกล่าว

Entergalactic จะบอกเล่าเรื่องราวของ Jabrai นักวาดการ์ตูนหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งได้เซ็นสัญญากับค่ายหนังสือการ์ตูนยักษ์ใหญ่ เขาเพิ่งเลิกกับแฟนสาวได้ไม่นานและยังคงกลัวการมีความรัก หลังจากที่ได้งานใหม่ เขาจึงมีเงินมากขึ้นและได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์สุดหรูแห่งหนึ่งในเกาะแมนฮัตตัน เมื่อย้ายเข้ามาได้ไม่นานเขาก็ได้พบเจอกับหญิงสาวข้างห้องอย่าง Meadow เธอเป็นช่างภาพอิสระที่กำลังตามหาความฝันเช่นกัน เมื่อ Jabari ได้เจอกับเธอ เขาก็ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ แต่ทุกอย่างมันไม่ได้ราบรื่นมากนัก เนื่องจากเขาต้องสร้างสมดุลระหว่างความรักและความสำเร็จในหน้าที่การงานที่เขาใฝ่ฝัน

สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เขียนบทออกมาได้อย่างกลมกล่อมครบครัน ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของสังคมในยุคสมัยใหม่ออกมาอย่างตรงไปตรงมา และมีความร่วมสมัยสูงมาก ปูเรื่องเริ่มต้นมาแบบเรียบง่ายแต่กระชับ ใช้เวลาไม่นานมานักในการปูเรื่องราวของ Jabari แถมยังมีการสอดแทรกฉากตลกเรียกเสียงหัวเราะมาให้ผู้ชมอยู่ตลอดผ่านตัวละครสมทบอย่างเพื่อนของพระเอก ได้แก่ Jimmy และ Ky ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งสีสันในเรื่องและเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจของพระเอก 

ซึ่งหนังจะตัดสลับให้เราได้ดูทั้งฝั่งพระเอกและนางเอกอย่าง Meadow ที่ในฝั่งของเธอก็มีเพื่อนสนิทคือ Karina ที่ทำหน้าที่เดียวกันคือสร้างสีสันและเป็นที่ปรึกษา สิ่งที่ชอบคือเขาเขียนบทมาให้ตัวสมทบแบบพอเหมาะพอดี โผล่มาบ้างเล็กน้อยเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าตัวสมทบเหล่านี้จะออกมาไม่มากแต่ออกมาแต่ละทีก็เต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความน่าจดจำ

สิ่งที่ผู้รีวิวชอบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องบทที่นำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละครหลักออกมาได้ดี ตรงไปตรงมา และร่วมสมัย ไม่ใช่แนวโรแมนติกคอเมดี้โลกสวยที่พระนางเขินกันไปมาและค่อยมารักกันตอนจบ แต่ให้เราเห็นกันยาวๆ ตั้งแต่จีบกันใหม่ๆ จนเริ่มคบหาดูใจกัน ช่วงที่ทุกอย่างหอมหวานและคละคลุ้งไปด้วยความรัก จนไปถึงช่วงที่ต้องเจอกับปัญหาที่ทำให้ผิดใจกันจนต้องแยกจากกัน จากนั้นค่อยจบด้วยการที่ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันและมารักกัน ซึ่งในชีวิตคู่จริงๆ ทุกคู่ก็ต้องพบเจอกับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะต่อให้รักกันแค่ไหน หวานกันแค่ไหน 

มันก็ต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราผิดใจกันได้ เป็นเหมือนการตอกย้ำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่สวยงามและมั่นคงเสมอไป อีกสิ่งที่ชอบคือการวางตำแหน่งของตัวละครต่างๆ ที่ถูกกำหนดมาได้ดี ตัวละคร Carmen แฟนเก่าของพระเอกที่ปูมาให้เราเห็นแค่ตอนต้นเรื่อง จากนั้นก็ค่อยมาใช้ประโยชน์จากเธอภายหลังเพื่อทำให้ทั้งคู่ผิดใจกันมันก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผล เพราะ Carmen ก็ไม่รู้ว่าพระเอกมีคนอื่นแล้ว เธอจึงส่งข้อความชวนสยิวให้พระเอกเพราะเธออยากกลับไปคืนดีกับเขา แต่เมื่อเธอรู้ความจริงเธอก็พร้อมที่จะถอยออกไป ส่วนตัวชอบที่ทำให้ไม่มีใครดีและไม่มีใครร้าย ทุกอย่างมันดูเรียบง่ายและสามารถเกิดขึ้นได้จริง

No comments:

Post a Comment

รีวิว Boku ga Aishita Subete no Kimi e (2023) ถึงเธอทุกคนที่ผมรัก

อนิเมะเรื่องดังที่เปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้มาพร้อมเรื่องราวสนุกๆ และงานภาพที่ดี มีมิติไม่จืด ชมได้เพลินมากยิ่งพวกฉากโรแมนติกนี้สุดจริงๆ กับซีน...